วันเสาร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ปราสาทฮิเมะจิ 姫路城

                                                        ปราสาทฮิเมะจิ 姫路城

ปราสาทฮิเมะจิ (ญี่ปุ่น姫路城 Himeji-jo, Himeji Castle ) เป็นปราสาทญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในเมืองฮิเมะจิ จังหวัดเฮียวโงะ เป็นสิ่งก่อสร้างที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งที่เหลือรอดมาจากการทิ้งระเบิดในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองและแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ฮันชิง พ.ศ. 2538 ปราสาทฮิเมะจิได้รับการยกย่องจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกและสมบัติประจำชาติญี่ปุ่นเมื่อเดือนธันวาคมปี พ.ศ. 2536 ถือว่าเป็น 1ใน 3 ปราสาทที่งดงามที่สุดในญี่ปุ่น โดยอีก 2 แห่งคือ ปราสาทมะสึโมะโตะ และปราสาทคุมะโมะโตะ และยังเป็นปราสาทที่มีผู้มาเยี่ยมชมมากที่สุดในญี่ปุ่น ชาวญี่ปุ่นนิยมเรียกในชื่อว่า ปราสาทนกกระสาขาว ซึ่งมีที่มาจากพื้นผิวปราสาทภายนอกซึ่งมีสีขาวสว่าง ในปัจจุบันปราสาทฮิเมะจิได้ขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติประจำชาติญี่ปุ่นและมรดกโลก


  
สถาปัตยกรรม
ปราสาทฮิเมะจิเป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์ของปราสาทญี่ปุ่น ด้วยมีลักษณะสถาปัตยกรรมและยุทโธปกรณ์ครบตามแบบของปราสาทญี่ปุ่น ทั้งฐานหินสูง กำแพงสีขาว และอาคารต่างๆในบริเวณปราสาทถือได้ว่าเป็นมาตรฐานตามแบบของปราสาทญี่ปุ่น และรอบๆปราสาทยังมีเครื่องป้องกันอีกมากมาย เช่น ช่องใส่ปืนใหญ่ รูสำหรับโยนหินออกนอกปราสาท
จุดเด่นของปราสาทอย่างหนึ่งคือ ทางเดินสู่อาคารหลักซึ่งสลับซับซ้อนราวกับเขาวงกต ทั้งประตูและกำแพงต่างๆในปราสาทได้รับการออกแบบมาอย่างดีเพื่อป้องกันศัตรูไม่ให้บุกรุกเข้าถึงโดยง่าย โดยทางเดินมีลักษณะเป็นวงก้นหอยรอบๆอาคารหลัก และระหว่างทางก็จะพบทางตันอีกมากมาย ระหว่างที่ศัตรูกำลังหลงทางอยู่นี้ก็จะถูกโจมตีจากข้างบนอาคารหลักได้โดยสะดวก แต่อย่างไรก็ตาม ปราสาทฮิเมะจิก็ยังไม่เคยถูกโจมตีในลักษณะนี้เลย ระบบการป้องกันต่างๆจึงยังไม่เคยถูกใช้งาน


ประวัติ 
เมื่อปี 1346 อะกะมะสึ ซะดะโนะริ ได้วางแผนที่จะสร้างปราสาทขึ้นที่เชิงเขาฮิเมะจิที่ซึ่งอากามัตสึ โนริมุระ ได้สร้างวัดโชเมียวขึ้น หลังจากอากามัตสึเสียชีวิตในสงครามคาคิทสึ ตระกูลยามานะได้เข้าครอบครองปราสาท แต่หลังจากสงครามโอนิน ตระกูลอากามัตสึก็ยึดปราสาทกลับมาได้อีกครั้ง
ปี 1580 โทะโยะโตะมิ ฮิเดะโยะชิ ได้เข้ามาเป็นผู้ปกครองปราสาท และมีการสร้างหออาคารหลักสูง 3ชั้น ดำเนินการโดยคุโรดะ โยชิทากะ
หลังจากสงครามเซกิงาฮาราในปี ค.ศ. 1601 โทะกุงะวะ อิเอะยะสุได้ยกปราสาทฮิเมะจิให้แก่อิเคะดะ เทะรุมะซะุ อิเคดะได้ดำเนินการต่อเติมปราสาทเป็นเวลา 8 ปี จนเป็นรูปลักษณ์อย่างที่เห็นในปัจจุบัน ส่วนต่อเติมส่วนสุดท้าย คือ วงเวียนด้านตะวันตก เสร็จสมบูรณ์เมื่อปี 1618
เมื่อสิ้นสุดยุคเอโดะ ปราสาทฮิเมะจิเป็นหนึ่งในสมบัติชิ้นสุดท้ายของไดเมียว โทะซะมะ ขณะนั้นปราสาทถูกปกครองโดยทายาทของซะกะอิ ทะดะซุมิ จนกระทั่งเมื่อเข้าสู่ยุคเมจิ ปี ค.ศ. 1868 รัฐบาลใหม่ของญี่ปุ่นได้ส่งกองกำลังภายใต้การบังคับบัญชาของทายาทของอิเคดะ เทะรุมะซะ เข้าบุกปราสาท และขับไล่ผู้ปกครองออกไป
ปราสาทฮิเมะจิถูกทิ้งระเบิดในปี ึค.ศ. 1945 เมื่อสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง แม้ว่าพื้นที่โดยรอบส่วนใหญ่จะถูกเผาทำลาย แต่ปราสาทยังคงตั้งอยู่ได้โดยแทบไม่เสียหาย


เรื่องลึกลับภายในปราสาทฮิเมจิ
                                                        บ่อน้ำที่ถูกปิดตาย



อันนี้เท่าที่ทราบมาครับ แต่เรื่องไม่ละเอียดเท่าไหร่ ปราสาทแห่งนี้เป็นปราสาทผีสิงครับ เจ้าเมืองมีนางสนมหลายคนครับ นางสนมจึงต้องแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกัน มีอยู่มาวันหนึ่ง มีนางสนมคนหนึ่งไม่พอใจเจ้าเมือง ก็วางแผนวางยาพิษ ให้เจ้าเมืองดื่มกิน แล้วใส่ร้ายนางสนมคนสนิทของเจ้าเมือง นางสนมที่ถูกใส่ร้ายถูกจับแล้ว ถูกทรมารบังคับให้สารภาพ แต่นางก็ไม่ยอมรับ จนนางได้กระโดดลงบ่อน้ำภายในปราสาท จนเป็นที่กล่าวขวัญว่า วันดีคืนดี จะมีเสียง โหยหวนออกมาจากปราสาทครับ

อ้อ ถ้าใครอยู่ภายในประสาทประมาณ 4 โมงให้รีบกลับออกมาครับ เพราะคนที่ไม่รู้เส้นทาง อาจกลับออกปราสาทภายในเวลา 2 ชั่วโมง ถ้าดึกแล้ว อาจหลงในปราสาทได้ครับ บึ๊ย...น่ากลัว
ปราสาทฮิเมจิ อยู่รอดมาได้อย่างไร ?

ในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง เมืองนี้ถูกโจมตี ด้วย การทิ้งระเบิด หลายหมื่นลูกด้วยกัน บ้างก็เชื่อว่า มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง แต่มีชาวบ้านได้ทำผ้าสีดำขนาดใหญ่ ปกคลุมตัวปราสาทเอาไว้จึงรอดมาได้ แต่ในทางผู้บังคับบัญชาที่ทิ้งระเบิดเมืองได้ได้กล่าวว่า พวกเขาเลียงการโจมตี โดยพวกเขาจะไม่โจมตี สถานที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจ เช่น วัด ศาลเจ้า หรือแม้แต่ปราสาทด้วย ถือว่าเป็นศิลปะที่มีค่า





แหล่งที่มาๆ 

7 ความคิดเห็น: