วันเสาร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

東京スカイツリー โตเกียวสกายทรี

โตเกียวสกายทรี (ญี่ปุ่น: 東京スカイツリー โทเกียวซุไกสึรี ?; อังกฤษ: Tokyo Skytree) หรือเรียก โตเกียวทาวเวอร์แห่งใหม่ (New Tokyo Tower) เป็นหอกระจายคลื่นตั้งอยู่ที่เขตซุมิดะ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ปัจจุบันเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในประเทศญี่ปุ่น ที่ความสูง 634.00 เมตร (2,080 ฟุต) ซึ่งได้สร้างถึงความสูงนี้แล้วเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. 2554 และได้สร้างเสร็จสมบูรณ์ในเดือนกุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 ในปัจจุบัน โตเกียวสกายทรีได้กลายเป็นหอคอยสื่อสารที่สูงที่สุดในโลก
 สูงกว่าหอคอยแคนตันในเมืองกว่างโจว ประเทศจีน ที่สูง 600 เมตร นอกจากนี้ยังเป็นสิ่งก่อสร้างบนเกาะที่สูงที่สุดในโลก สูงกว่าอาคารไทเป 101 และเป็นสิ่งก่อสร้างที่สูงที่สุดในโลกอันดับสอง รองจากบูร์จคาลิฟาในดูไบ
ในปัจจุบัน โตเกียวทาวเวอร์ (สูง 333 เมตร) มีความสูงไม่พอที่จะส่งสัญญาณคลื่นโทรทัศน์แบบดิจิตอลให้ครอบคลุม เนื่องจากมีอาคารและตึกสูงจำนวนมากสร้างขึ้นบังสัญญาณบริเวณใจกลางเมือง จึงมีโครงการก่อสร้างโตเกียวสกายทรีขึ้น นำโดยบริษัท โทบุเรลเวย์ จำกัด ซึ่งเริ่มก่อสร้างในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2551 แล้วเสร็จในวันที่ 29 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 และเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 22 พฤษภาคม ปีเดียวกัน
ที่มาของการกำหนดความสูงไว้ที่ 634 เมตร เนื่องจากในยุคเอโดะ พื้นที่กรุงโตเกียว จังหวัดคะนะกะวะและจังหวัดไซตะมะในปัจจุบันเรียกว่า มุซะชิ (ญี่ปุ่น: 武蔵-634-Musashi) มุ (แทนเลขหก (6) ซะ (แทนเลขสาม ชิ (แทนเลขสี่


 โตเกียวสกายทรี  หรือเรียก โตเกียวทาวเวอร์แห่งใหม่









//แหล่งอ้างอิง * 

   秋葉原 Akihabara

  อะกิฮะบะระ (ญี่ปุ่น: 秋葉原 Akihabara ?) เป็นย่านที่มีชื่อเสียงในกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ได้รับขนานนามว่า "เมืองอิเล็กทรอนิกส์อะกิฮะบะระ" เนื่องจากเต็มไปด้วยร้านขายเครื่องใช้ไฟฟ้า คอมพิวเตอร์ เกม ของเล่น และการ์ตูน ชาวญี่ปุ่นจะเรียกย่านนี้สั้น ๆ ว่า "อะกิบะ" (アキバ Akiba)
ส่วนที่เรียกว่าอะกิฮะบะระอย่างเป็นทางการนั้นตั้งอยู่ในเขตไทโต (台東区 Taitō-ku) แต่ส่วนที่คนปัจจุบันรู้จักกันในนามอะกิฮะบะระนั้นรวมถึงสถานีอะกิฮะบะระตั้งอยู่ในเขตชิโยะดะ (千代田区 Chiyoda-ku) ซึ่งทั้งสองเขตเป็นเขตปกครองพิเศษในโตเกียว

  อากิฮาบาร่า ( Akihabara ) เป็นย่านช๊อปปิ้งที่น่าสนใจมากแห่งหนึ่งของโตเกียว เนื่องจากเครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหมดสามารถหาซื้อได้ที่นี่ไม่ว่าจะเป็น เครื่องซักผ้า,ตู้เย็น,เครื่องเสียง ต่างๆ จนถึง เครื่องfax หรือแม้แต่อุปกรณ์ Hardware และ Software ของ Computer ก็มีเช่นกัน
แต่ อากิฮาบาร่าไม่ได้มีแค่สินค้าที่กล่าวมาข้างต้นเท่านั้น ที่นี่ยังเป็นแหล่งรวมบรรดานักเล่นเกมส์ เพราะเป็นแหล่งที่มีเกมส์ให้เลือกมากมาย แหล่งผู้ที่ชื่นชอบการ์ตูนธรรมดา การ์ตูนโดจิ้น และอื่น ๆ ละไว้ในฐานที่เข้าใจนะครับ เรียกได้ว่าเป็นย่านสำหรับหนุ่มน้อยจนถึงหนุ่มใหญ่ หรือย่านโอตาขุ เลยทีเดียว
        เพื่อน ๆ หลายคนคงไม่รู้จัก โอตาคุ ว่าคืออะไร ผมจะอธิบายคราว ๆ นะครับโอตาคุในวงการการ์ตูนที่ญี่ปุ่นนั้น ถูกเปรียบเป็นพวกที่บ้าการ์ตูนหนักจนแทบหลุดจากโลกแห่งความจริง บางกรณีถึงขั้นชอบผู้หญิงในอนิเมะมากกว่าผู้หญิงจริงๆเลยด้วยซ้ำ
 และด้วยเห็นนี้เองทำให้ย่านนี้จะเห็นผู้หญิงใส่ชุดในการ์ตูนต่าง ๆ ( Cosplay ) มายืนแอ๊บแบ้วเรียกลูกค้าเต็มไปหมด ประมาณว่าใส่สุดแมวเหมียวมาทำท่าน่ารัก หรือชุดเมดสุดน่ารัก ( น่ารักมาก ๆๆ ) บอกได้เลยว่าถ้าเพื่อน ๆ เจอสาวที่แต่งชุดแบบนี้เข้ามาใกล้ ๆ รับรองว่าใจละลายแน่นอน และไปเข้าร้านเค้าแน่นอน และบ้างร้านมีบริการเช่าพนักงานน่ารัก ๆ ไปเดินเป็นเพื่อนด้วยนะครับ สงสัยเพื่อน ๆ ได้มีหมดตัวกันบ้างล่ะคราวนี้ แต่สิ่งน่ารักไม่ได้มีแค่นี้นะครับเพราะทุกสิ่งทุกอย่างของย่านนี้เค้าจะทำให้ดูน่ารักไปหมดตั้งแต่ของกิน ของฝาก แม้กระทั้งป้ายข้างทางยังคิกขุเลย



















แหล่งที่มา 

ปราสาทฮิเมะจิ 姫路城

                                                        ปราสาทฮิเมะจิ 姫路城

ปราสาทฮิเมะจิ (ญี่ปุ่น姫路城 Himeji-jo, Himeji Castle ) เป็นปราสาทญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในเมืองฮิเมะจิ จังหวัดเฮียวโงะ เป็นสิ่งก่อสร้างที่เก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งที่เหลือรอดมาจากการทิ้งระเบิดในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองและแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ฮันชิง พ.ศ. 2538 ปราสาทฮิเมะจิได้รับการยกย่องจากยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกและสมบัติประจำชาติญี่ปุ่นเมื่อเดือนธันวาคมปี พ.ศ. 2536 ถือว่าเป็น 1ใน 3 ปราสาทที่งดงามที่สุดในญี่ปุ่น โดยอีก 2 แห่งคือ ปราสาทมะสึโมะโตะ และปราสาทคุมะโมะโตะ และยังเป็นปราสาทที่มีผู้มาเยี่ยมชมมากที่สุดในญี่ปุ่น ชาวญี่ปุ่นนิยมเรียกในชื่อว่า ปราสาทนกกระสาขาว ซึ่งมีที่มาจากพื้นผิวปราสาทภายนอกซึ่งมีสีขาวสว่าง ในปัจจุบันปราสาทฮิเมะจิได้ขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติประจำชาติญี่ปุ่นและมรดกโลก


  
สถาปัตยกรรม
ปราสาทฮิเมะจิเป็นตัวอย่างที่สมบูรณ์ของปราสาทญี่ปุ่น ด้วยมีลักษณะสถาปัตยกรรมและยุทโธปกรณ์ครบตามแบบของปราสาทญี่ปุ่น ทั้งฐานหินสูง กำแพงสีขาว และอาคารต่างๆในบริเวณปราสาทถือได้ว่าเป็นมาตรฐานตามแบบของปราสาทญี่ปุ่น และรอบๆปราสาทยังมีเครื่องป้องกันอีกมากมาย เช่น ช่องใส่ปืนใหญ่ รูสำหรับโยนหินออกนอกปราสาท
จุดเด่นของปราสาทอย่างหนึ่งคือ ทางเดินสู่อาคารหลักซึ่งสลับซับซ้อนราวกับเขาวงกต ทั้งประตูและกำแพงต่างๆในปราสาทได้รับการออกแบบมาอย่างดีเพื่อป้องกันศัตรูไม่ให้บุกรุกเข้าถึงโดยง่าย โดยทางเดินมีลักษณะเป็นวงก้นหอยรอบๆอาคารหลัก และระหว่างทางก็จะพบทางตันอีกมากมาย ระหว่างที่ศัตรูกำลังหลงทางอยู่นี้ก็จะถูกโจมตีจากข้างบนอาคารหลักได้โดยสะดวก แต่อย่างไรก็ตาม ปราสาทฮิเมะจิก็ยังไม่เคยถูกโจมตีในลักษณะนี้เลย ระบบการป้องกันต่างๆจึงยังไม่เคยถูกใช้งาน


ประวัติ 
เมื่อปี 1346 อะกะมะสึ ซะดะโนะริ ได้วางแผนที่จะสร้างปราสาทขึ้นที่เชิงเขาฮิเมะจิที่ซึ่งอากามัตสึ โนริมุระ ได้สร้างวัดโชเมียวขึ้น หลังจากอากามัตสึเสียชีวิตในสงครามคาคิทสึ ตระกูลยามานะได้เข้าครอบครองปราสาท แต่หลังจากสงครามโอนิน ตระกูลอากามัตสึก็ยึดปราสาทกลับมาได้อีกครั้ง
ปี 1580 โทะโยะโตะมิ ฮิเดะโยะชิ ได้เข้ามาเป็นผู้ปกครองปราสาท และมีการสร้างหออาคารหลักสูง 3ชั้น ดำเนินการโดยคุโรดะ โยชิทากะ
หลังจากสงครามเซกิงาฮาราในปี ค.ศ. 1601 โทะกุงะวะ อิเอะยะสุได้ยกปราสาทฮิเมะจิให้แก่อิเคะดะ เทะรุมะซะุ อิเคดะได้ดำเนินการต่อเติมปราสาทเป็นเวลา 8 ปี จนเป็นรูปลักษณ์อย่างที่เห็นในปัจจุบัน ส่วนต่อเติมส่วนสุดท้าย คือ วงเวียนด้านตะวันตก เสร็จสมบูรณ์เมื่อปี 1618
เมื่อสิ้นสุดยุคเอโดะ ปราสาทฮิเมะจิเป็นหนึ่งในสมบัติชิ้นสุดท้ายของไดเมียว โทะซะมะ ขณะนั้นปราสาทถูกปกครองโดยทายาทของซะกะอิ ทะดะซุมิ จนกระทั่งเมื่อเข้าสู่ยุคเมจิ ปี ค.ศ. 1868 รัฐบาลใหม่ของญี่ปุ่นได้ส่งกองกำลังภายใต้การบังคับบัญชาของทายาทของอิเคดะ เทะรุมะซะ เข้าบุกปราสาท และขับไล่ผู้ปกครองออกไป
ปราสาทฮิเมะจิถูกทิ้งระเบิดในปี ึค.ศ. 1945 เมื่อสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง แม้ว่าพื้นที่โดยรอบส่วนใหญ่จะถูกเผาทำลาย แต่ปราสาทยังคงตั้งอยู่ได้โดยแทบไม่เสียหาย


เรื่องลึกลับภายในปราสาทฮิเมจิ
                                                        บ่อน้ำที่ถูกปิดตาย



อันนี้เท่าที่ทราบมาครับ แต่เรื่องไม่ละเอียดเท่าไหร่ ปราสาทแห่งนี้เป็นปราสาทผีสิงครับ เจ้าเมืองมีนางสนมหลายคนครับ นางสนมจึงต้องแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นกัน มีอยู่มาวันหนึ่ง มีนางสนมคนหนึ่งไม่พอใจเจ้าเมือง ก็วางแผนวางยาพิษ ให้เจ้าเมืองดื่มกิน แล้วใส่ร้ายนางสนมคนสนิทของเจ้าเมือง นางสนมที่ถูกใส่ร้ายถูกจับแล้ว ถูกทรมารบังคับให้สารภาพ แต่นางก็ไม่ยอมรับ จนนางได้กระโดดลงบ่อน้ำภายในปราสาท จนเป็นที่กล่าวขวัญว่า วันดีคืนดี จะมีเสียง โหยหวนออกมาจากปราสาทครับ

อ้อ ถ้าใครอยู่ภายในประสาทประมาณ 4 โมงให้รีบกลับออกมาครับ เพราะคนที่ไม่รู้เส้นทาง อาจกลับออกปราสาทภายในเวลา 2 ชั่วโมง ถ้าดึกแล้ว อาจหลงในปราสาทได้ครับ บึ๊ย...น่ากลัว
ปราสาทฮิเมจิ อยู่รอดมาได้อย่างไร ?

ในสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง เมืองนี้ถูกโจมตี ด้วย การทิ้งระเบิด หลายหมื่นลูกด้วยกัน บ้างก็เชื่อว่า มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครอง แต่มีชาวบ้านได้ทำผ้าสีดำขนาดใหญ่ ปกคลุมตัวปราสาทเอาไว้จึงรอดมาได้ แต่ในทางผู้บังคับบัญชาที่ทิ้งระเบิดเมืองได้ได้กล่าวว่า พวกเขาเลียงการโจมตี โดยพวกเขาจะไม่โจมตี สถานที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจ เช่น วัด ศาลเจ้า หรือแม้แต่ปราสาทด้วย ถือว่าเป็นศิลปะที่มีค่า





แหล่งที่มาๆ